Offer Categories: รีไฟแนนซ์

รวมเรื่องราวเกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์

เมื่อมีการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อสินทรัพย์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือยานพาหนะคุณสามารถเช้าสู่กระบวนการรีไฟแนนซ์ได้ เพื่อเป็นการลดดอกเบี้ย ลดค่างวด และเพื่อสิทธิประโยชน์หลาย ๆ อย่าง แต่ถ้าตอนนี้คุณยังไม่มั่นใจว่ารีไฟแนนซ์คืออะไร มีประโยชน์และสิ่งที่ต้องคำนึงถึงในจุดไหนบ้าง วันนี้เรามาเจาะลึกเรื่องของการ refinance ไปพร้อมกันดีกว่า

รีไฟแนนซ์คืออะไร

ก่อนอื่นเราต้องมาทำความรู้จักกันก่อนว่ารีไฟแนนซ์คืออะไร คำตอบคือการรีไฟแนนซ์เป็นการชำระเงินกู้ทั้งหมดด้วยเงินกู้ใหม่ ใช้สินทรัพย์ตัวเดิมเป็นหลักประกัน ไม่ว่าจะเป็นรถหรือบ้านที่คุณเข้าไฟแนนซ์อยู่ ซึ่งจะทำการกู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์จากสถาบันการเงินแห่งใหม่แทน

มักใช้ในกรณีที่หมุนเวียนเงินเพื่อจ่ายค่างวดสินทรัพย์ที่ผ่อนอยู่ไม่ไหว หรือดอกเบี้ยก้อนเดิมสูง เลือกดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์แล้วถูกกว่า และอาจได้ลดจำนวนค่างวดลงอีกด้วย เป้าหมายหลักคือเพื่อให้คุณสามารถได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง ค่างวดที่ลดลง หรืออาจมีระยะเวลาการจ่ายหนี้ที่เพิ่มขึ้น

ในบางกรณีอาจทำการขอจากสถาบันการเงินเดิมได้ หากเปรียบเทียบแล้วว่าการขอใหม่นั้นเป็นประโยชน์กับคุณมากกว่า เพราะจำนวนของหนี้สินที่กู้ลดลงจากรอบแรกแล้วนั่นเอง ดังนั้นจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดอกเบี้ยหลาย ๆ สถาบันการเงินเทียบกันเพื่อให้คุณได้รับเงื่อนไขที่ดีที่สุด และลดอัตราค่าใช้จ่ายรวมสุทธิได้มากที่สุดนั่นเอง

รีไฟแนนซ์แบบไหนที่นิยมทำกันบ้าง

หลังจากที่รู้กันแล้วว่ารีไฟแนนซ์คืออะไร เรามาดูกันดีกว่าว่ารีไฟแนนซ์นั้นมีประเภทไหนให้คุณได้เข้าถึงกันบ้าง เพื่อจะได้นำไปวางแผนเพื่อการผ่อนสินทรัพย์ให้คุ้มค่า และมีประสิทธิภาพมากที่สุด

1. สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน

สำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านนั้นคือ การยื่นกู้บ้านกับธนาคารแห่งใหม่ ลดภาระเงินกู้เก่า ส่วนใหญ่ทำเพื่อให้ดอกเบี้ยบ้านลดลง ยอดผ่อนต่อเดือนน้อยลง ผ่อนให้หมดเร็วขึ้น เพราะส่วนใหญ่แล้วการกู้ในช่วง 1-2 ปีแรกดอกเบี้ยจะต่ำ หลังจากนั้นดอกเบี้ยจะเริ่มลอยตัว การเลือกรีไฟแนนซ์จึงเข้ามาเป็นคำตอบที่ดีสำหรับคนผ่อนบ้านแทบจะทุกคน เพราะมักมีเงื่อนไขที่ดีขึ้น ค่างวดลดลง ไปพร้อมกับอาจช่วยยืดระยะเวลาในการผ่อนได้ โดยส่วนใหญ่แล้วจะทำได้เมื่อสัญญากับธนาคารแห่งแรกหมด ซึ่งมีอายุสัญญาอยู่ที่ประมาณ 3 ปี

2. รีไฟแนนซ์รถยนต์

สำหรับรถยนต์เองก็สามารถนำมาใช้รีไฟแนนซ์ได้เหมือนกับบ้าน โดยเป็นการนำรถยนต์มาค้ำประกันเงินกู้ โดยสถาบันการเงินจะทำการประเมินสภาพรถ ณ ปัจจุบันของคุณ โดยอิงกับราคากลางของรถว่าอยู่ในระดับราคาเท่าไร โดยการ refinance นั้นเป็นอีกหนึ่งทางในการลดต้นทุนทางการเงิน ยิ่งใครผ่อนรถเหลืออยู่ 3-5 ปี ยิ่งเหมาะที่จะทำเพื่อให้ได้รับดอกเบี้ยที่ต่ำลงกว่าเดิม และมีเงินก้อนจากส่วนต่างไปใช้จ่ายได้อีกด้วย

3. รีไฟแนนซ์รถจักรยานยนต์

โดยรถจักรยานยนต์ก็เป็นหนึ่งในทรัพย์สินที่สามารถนำมาเข้าทำการรีไฟแนนซ์ได้เช่นกัน ซึ่งจะเน้นไปที่รถจักรยานยนต์ที่ปลอดภาระแล้ว เพื่อนำมาเป็นหลักประกันเงินกู้ ซึ่งคุณจะยังมีรถเอาไว้ขี่เหมือนปกติ มีตัวเลือกให้คุณสามารถเลือกได้ว่าจะโอนทะเบียน หรือไม่โอนทะเบียน

อยากรีไฟแนนซ์ต้องทำอย่างไร

วันนี้ขอยกตัวอย่างในส่วนของรีไฟแนนซ์บ้านให้คุณได้เห็นถึงขั้นตอน เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่คนให้ความสนใจมากที่สุด และเป็นสิ่งที่ควรทำที่สุดสำหรับคนผ่อนบ้านอีกด้วย ดังนั้นต้องการ refinance ต้องทำอย่างไรบ้าง มาดูกันเลย

1. เทียบความคุ้มค่า

ก่อนที่จะตัดสินใจย้ายเราขอแนะนำให้คุณเทียบค่าใช้จ่ายทั้งหมดระหว่างสถาบันการเงินเก่าและใหม่ให้ละเอียดก่อน เพราะถ้าไม่ต่างกัน หรืออาจยังไม่ถูกจังหวะการอยู่ที่เดิมย่อมสะดวกกว่าแน่นอน โดยขั้นแรกคุณต้องติดต่อธนาคารที่กู้อยู่เพื่อขอลดดอกเบี้ยให้ (Retention) ก่อน

2. ตรวจสอบสัญญาการกู้

ส่วนใหญ่สัญญาของการกู้นั้นจะต้องผ่อนชำระให้ครบ 3 ปีก่อน ถึงจะสามารถรีไฟแนนซ์ได้ เพราะไม่อย่างนั้นคุณจะต้องทำการจ่ายค่าปรับในการผิดสัญญาให้กับทางธนาคารแทน

3. เตรียมเอกสาร

หลังจากผ่านขั้นตอนการขดลดดอกเบี้ย เทียบข้อมูลค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วต้องการจะกู้กับธนาคารใหม่ คุณจำเป็นต้องเตรียมเอกสารให้พร้อม หลัก ๆ แล้วจะต้องเตรียม ดังนี้

– เอกสารข้อมูลส่วนบุคคล เช่น บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านและทะเบียนสมรส

– เอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน และรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน

– เอกสารหลักประกัน เช่น โฉนดที่ดินและสัญญาเงินกู้จากธนาคารเดิม 

4. เริ่มยื่นกู้

การดำเนินการนั้นเรียกว่าคล้ายกับตอนกู้ซื้อบ้านในครั้งแรกเลยทีเดียว ทั้งการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปประเมิน รอผลการอนุมัติ การเซ็นสัญญา 

5. เตรียมค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ

ในส่วนนี้คุณจำเป็นที่จะต้องวางแผนกันเอาไว้ล่วงหน้า เพราะมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่จะน้อยกว่าการซื้อบ้านแบบปกติ หลัก ๆ แล้วคุณจะมีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายดังนี้
– ค่าประเมินราคาสินทรัพย์ ประมาณ 2,000-3,000 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร

– ค่าจดจำนอง จ่ายให้กรมที่ดิน 1% ของวงเงินกู้

– ค่าประกันอัคคีภัย

– ค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของวงเงิน (ไม่เกิน 10,000 บาท)

– ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ของธนาคาร

6. เริ่มดำเนินการ

ในขั้นตอนนี้คุณต้องทำสัญญาที่กรมที่ดิน พร้อมทำสัญญาการจดจำนอง จากนั้นก็ถือว่าเสร็จสิ้นขั้นตอน และสามารถเริ่มผ่อนบ้านกันต่อในเงื่อนไขที่ดีขึ้นได้เลย

ข้อดี ข้อเสียของรีไฟแนนซ์

เรามาเทียบเรื่องข้อดี ข้อเสียของรีไฟแนนซ์กันดีกว่า เผื่อว่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งในการช่วยให้คุณตัดสินใจในเรื่องนี้ได้ง่ายมากขึ้น

• ข้อดี

– ดอกเบี้ยถูกลง

– บางครั้งได้วงเงินกู้มากกว่าเงินค้าง

– ลดภาระหนี้ต่อเดือน

– ได้เงินส่วนต่าง แต่ดอกเบี้ยลดลง มีเงินไปหมุนเวียนเพิ่มมากขึ้น

• ข้อเสีย

– ต้องผ่อนนานขึ้น

– เสียค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ พร้อมทั้งเสียเวลา

– มีความยุ่งยากในเรื่องของเอกสารรายได้ หากรายได้ไม่เหมือนเดิมก็อาจเกิดปัญหาขึ้น

สำหรับใครที่สนใจเรื่องของรีไฟแนนซ์กันอยู่สามารถเปรียบเทียบยอดค่าใช้จ่ายโดยรวมเพื่อให้คุณได้เงื่อนไขที่ดีที่สุดกันได้เลย โดยสามารถเปรียบเทียบผ่านทางออนไลน์ได้ แต่หากต้องการใช้เงินก้อนวิธีการนี้ก็ถือว่าช่วยให้คุณมีเงินหมุนเวียนที่ดีเช่นเดียวกัน